นายกรัฐมนตรีสมัยแรก ของ แรมซีย์ แมกดอนัลด์

ในการบริหารประเทศครั้งแรก เขาสนใจด้านต่างประเทศมากกว่าเรื่องภายในประเทศ โดยเฉพาะการประสบความสำเร็จในการช่วยคลี่คลายวิกฤตการณ์ที่ฝรั่งเศสและเบลเยียมเข้ายึดแคว้นรูห์ของเยอรมนี รัฐบาลของเขาได้โน้มน้าวให้ฝรั่งเศสจกลงยอมรับแผนการดอวส์[2] นอกจากนี้ รัฐบาลของเขายังริเริ่มการจัดทำพิธีสารเจนีวาว่าด้วยความมั่นคงและการลดอาวุธต่อที่ประชุมใหญ่ของสันนิบาตชาติ[3] ผลงานที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ การสามารถยับยั้งการเกิดเหตุการณ์รุนแรงในไอร์แลนด์ได้สำเร็จ โดยการตกลงยกเลิกหนี้สินที่เสรีรัฐไอร์แลนด์มีอยู่กับอังกฤษ แลกกับการที่เสรีรัฐไอร์แลนด์ยอมยุติการเรียกร้องให้ 6 มณฑลทางเหนือที่รวมเรียกว่า เขตอัลสเตอร์ กลับคืนไปรวมกันดังที่เคยเป็นมาก่อน

อย่างไรก็ดี การที่รัฐบาลของเขาให้การรับรองสหภาพโซเวียตที่สถาปนาขึ้นภายหลังการปฏิวัติในรัสเซีย การทำสนธิสัญญาการค้าและการที่รัฐบาลอังกฤษจะให้สหภาพโซเวียตกู้เงิน[4] ทำให้นักการเมืองพรรคอนุรักษนิยมและพรรคเสรีนิยมต่างก็ไม่เห็นด้วยกับท่าทีนี้ของรัฐบาล พรรคเสรีนิยมที่เคยสนับสนุนรัฐบาลของเขาจึงถอนตัวออก ยิ่งเมื่อรัฐบาลของเขาล้มเหลวในการดำเนินคดีกับ เจ อาร์ แคมเบลล์ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ เกี่ยวกับเรื่อง “จดหมายซีโนเวียฟ” ทำให้เกิดความหวั่นระแวงของประชาชนว่ารัฐบาลของเขาฝักใฝ่สหภาพโซเวียตก็ยิ่งเพิ่มขึ้น

ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปปลาย พ.ศ. 2467 พรรคอนุรักษนิยมได้เสียงข้างมากในสภา จำนวน 415 เสียง ขณะที่พรรคแรงงานได้ 152 เสียง และพรรคเสรีนิยมได้ 42 เสียง เขาจึงลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี ในการบริหารประเทศครั้งแรกไม่ถึง 10 เดือน สแตนลีย์ บอลด์วิน จากพรรคอนุรักษนิยมได้ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งที่ 2